foto1
foto1
foto1
foto1
foto1

administrator

Login Form

สถิติผู้เข้าชมเว็ปไซต์

115393
วันนี้
เมื่อวานนี้
สัปดาห์นี้
สัปดาห์ที่ผ่าน
เดือนนี้
เดือนที่ผ่านมา
ผู้ที่เข้าชมทั้งหมด
25
130
306
115049
155
831
115393

Your IP: 18.222.209.172
Server Time: 2025-05-02 10:51:24

เวลา

 

กศน.ตำบล

 เว็บเพจ กศน.ตำบล

ข้อมูลพื้นฐานทั่วไป

ข้อมูลทั่วไปของ ตำบลโพนงาม

         ประวัติตำบลโพนงามนั้นผู้รู้ได้บอกเล่าว่าเกิดจากการอพยพย้ายถิ่นฐานอันเนื่องมาจากการลี้ภัยทางสงครามจากชายแดนประเทศจีนซึ่งมีอาณาเขตติดกับประเทศลาวซึ่งในสมันนั้นเกิดศึกฮ้อศึกกระทอ จึงเกิดการอพยพหนีภัยสงครามลงมาเรื่อยๆ นำโดยกลุ่มบุคคลหนึ่งซึ่งประกอบด้วย

          1. พ่อเฒ่าไชยะราช

          2. พ่อเฒ่าไชยะสาน

          3. ครอบครัวนางใหญ่

          4. ครอบครัวนางสุชาดา

        ทั้ง 4 ครอบครัวได้อพยพถอยล้นหนีไปอยู่เมืองวังอ่างคำ แต่ก็ไม่สามารถตั้งถิ่นฐานอยู่ได้นานก็ได้อพยพมาอยู่ที่บ้านหนองเดิ่นริมแม่น้ำโขงประเทศลาวแต่แล้วก็เกิดศึกสงครามขึ้นอีกกลุ่มผู้นำจึงตัดสินใจอพยพข้ามแม่น้ำโขงมาสู้ฝั่งประเทศไทยมาตั้งบ้านอยู่ที่บ้านโพนทาซึ่งงในปัจจุบันคือบ้านหนองสระพัง หมู่ 6 แต่เนื่องจากลักษณะที่ตั้งหรือลักษณะของพื้นที่มีขนาดเล็กไม่เหมาะสมต่อการขยายหมู่บ้านหรือครัวเรือน   ดังนั้นจึงมีกลุ่มบุคคลหนึ่งซึ่งไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นใครได้แยกครัวเรือนออกมาเพื่อที่จะไปตั้งหมู่บ้านใหม่ซึ่งไม่ไกลกันนักและได้ตั้งชื่อบ้านว่าบ้านโพนงามจนถึงในปัจจุบัน

ตำบลโพนงาม เดิมเป็นบ้านโพนงามของตำบลบ้านเหล่า ต่อมาได้มีพระราชบัญญัติจัดตั้งตำบลบ้านค้อ ในปี พ.ศ.2475 บ้านโพนงามจึงขึ้นต่อตำบลบ้านค้อ ต่อมาปี พ.ศ.2512 ได้แยกจัดตั้งเป็นตำบลโพนงาม ปัจจุบันเป็นตำบลหนึ่งในอำเภอคำชะอี

ข้อมูลทางกายภาพ

ที่ตั้งและอาณาเขต

ที่ตั้งตำบลโพนงามตั้งอยู่ทางทิศเหนือของอำเภอคำชะอี อยู่ห่างจาก

อำเภอคำชะอี ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร ห่างจากจังหวัดมุกดาหารระยะทางประมาณ 38 กิโลเมตร

สภาพภูมิประเทศ

          สภาพภูมิประเทศทั่วไปเป็นที่ราบติดเชิงเขา มีภูเขาทางด้านทิศเหนือจรดทิศตะวันตกของตำบล ทางทิศตะวันออกและทิศใต้จะเป็นที่ดอนและที่ราบลุ่มลำห้วย หนองน้ำธรรมชาติ โดยเฉลี่ยสูงจากระดับน้ำทะเลโดยประมาณ 202 เมตร

สภาพพื้นที่ป่าไม้

          สภาพป่าไม้ส่วนใหญ่อยู่บนภูเขา ซึ่งหลังเขาจะมีสภาพพื้นที่เป็นที่ราบ

มีลำห้วย ลักษณะป่าเป็นป่าไม้เบญจพรรณ มีต้นไผ่ขึ้นสลับ บางส่วนได้ถูกเกษตรกรบุกรุก จับจองทำไร่มันสำปะหลัง ซึ่งอยู่ในเขตหมู่ที่ 1, 2, 4, 9, 10 ตำบลโพนงามมีพื้นที่ป่าไม้และภูเขาจำนวน14, 687 ไร่

อุณหภูมิ

ตำบลโพนงามมีสภาพพื้นที่ราบเชิงเขาและมีภูเขาสูง   ทำให้อากาศแปรปรวนบางช่วงมีอากาศร้อนจัด ในฤดูหนาวอากาศหนาว อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 14-40 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ประมาณ 65– 80 % เหมือนกับจังหวัดอื่น ๆ ของภาคะวันออกเฉียงเหนือทั่วไป

แหล่งน้ำและปริมาณในรอบปี ปริมาณน้ำฝน

แหล่งน้ำธรรมชาติ

ก. ลำห้วยมีทั้งหมด 7 แห่ง

                   - ห้วยย่อง มีความยาวประมาณ 2 กิโลเมตร มีพื้นที่เก็บน้ำประมาณ 2 ไร่

                   - ห้วยขาแผ่ มีความยาวประมาณ 2 กิโลเมตร มีพื้นที่เก็บน้ำประมาณ 2 ไร่

                   - ห้วยยาง มีความยาวประมาณ 4 กิโลเมตร มีพื้นที่เก็บน้ำประมาณ 3 ไร่

                   - ห้วยกุดจิก มีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร มีพื้นที่เก็บน้ำประมาณ 1 ไร่

                   - ห้วยใหญ่ มีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร มีพื้นที่เก็บน้ำประมาณ 1 ไร่

                   - ห้วยบักตู้ มีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร มีพื้นที่เก็บน้ำประมาณ 1 ไร่

                   - ห้วยเลา มีความยาวประมาณ 5 กิโลเมตร มีพื้นที่เก็บน้ำประมาณ 4 ไร่

                  

ข. หนองน้ำ มีจำนวน 4 แห่ง

                   - หนองสระพังทองใหญ่ ตั้งอยู่หมู่ที่ 9 มีพื้นที่ประมาณ 9 ไร่

                   - หนองสระพังทองน้อย ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 มีพื้นที่ประมาณ 1 ไร่

                   - หนองดินแดง ตั้งอยู่หมู่ที่ 9 มีพื้นที่ประมาณ 1 ไร่

                   - หนองอนามัย ตั้งอยู่หมู่ที่ 5 มีพื้นที่ประมาณ 1 ไร่

เส้นทางคมนาคม

      ตำบลโพนงามมีเส้นทางคมนาคมที่สามารถเดินทางได้สะดวกระหว่างจังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้านดังนี

   -  ถนนสายอำเภอคำชะอี ถึงบ้านดอนป่าแคน ระยะทาง 14 กิโลเมตร เป็นถนนลาดยาง

      - ถนนเชื่อมทางหลวงแผ่นดินสายคำชะอี – มุกดาหาร โดยแยกที่บ้านหนองเอี่ยน ตำบลหนองเอี่ยน อำเภอคำชะอี เป็นถนนลาดยางผ่านบ้านหัวขัวตำบลหนองเอี่ยน เป็นถนนลาดยางทั้งหมด ระยะทางจากบ้านหนองเอี่ยนถึงบ้านโพนงาม ระยะทาง 6 กิโลเมตร

   - ถนนสายบ้านหนองไผ่ ตำบลผึ่งแดด อำเภอเมือง ผ่านบ้านแฝก หมู่ที่ 10ถึงบ้านโพนงาม ระยะทาง 5 กิโลเมตร เป็นถนนลาดยาง

ข้อมูลสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ

          -     โรงเรียน                                   5        แห่ง

          -     สำนักสงฆ์                                 3        แห่ง

          -     วัด                                          5        แห่ง

          -     ห้องสมุดประชาชน                      1        แห่ง

          -     สถานีอนามัย                             2        แห่ง

          -     ที่ทำการ อบต                            1        แห่ง

          -     ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน     5        แห่ง

          -     ฉางข้าวประจำหมู่บ้านขนาด 10 ตัน 5        แห่ง

          -     อาคารตลาดสด                          1        หลัง

          -     ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก                     1        หลัง

          -     ร้านค้าสหกรณ์                           2        แห่ง

ข้อมูลอาชีพของตำบล

การประกอบอาชีพของชุมชนตำบลโพนงาม ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทางการเกษตร คือ การทำนาเป็นอาชีพหลัก อาชีพรองทำไร่ และไปรับจ้างเป็นแรงงานในตัวจังหวัดหรือนอกเขตจังหวัด ในพื้นที่หัวไร่ปลายนาเป็นที่ดอนปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้น พืชไร่จะปลูกมากที่บริเวณภูเขา การเลี้ยงสัตว์ใหญ่ เช่น โค กระบือ จะเลี้ยงไว้จำหน่ายและใช้แรงงานบางส่วน บริเวณบ้านพักที่อยู่อาศัยเลี้ยงสัตว์ปีกเพื่อบริโภคในครัวเรือนเหลือก็จำหน่ายในท้องถิ่นและตลาดใกล้เคียงพันธุ์พืชปัจจุบันหันมาใช้พันธุ์ที่ทางราชการส่งเสริมกันมากขึ้น และมีการใช้เทคโนโลยีการผลิตมากขึ้น เช่น การใส่ปุ๋ยเคมี การใช้เครื่องจักรกลการเกษตรแทนแรงงานสัตว์เพิ่มขึ้น มีเกษตรกรบางส่วนนำของป่ามาจำหน่ายตามฤดูกาลเป็นการเสริมรายได้ การประกอบอาชีพทางการเกษตรหัวหน้าครอบครัวเป็นผู้ตัดสินใจในการกำหนดกิจกรรมในการผลิต การผลิตจะเน้นการบริโภคในครัวเรือนให้เพียงพอที่เหลือก็จำหน่ายเป็นรายได้เสริมอีกทางหนึ่ง

- การทำนา เป็นการทำนาอย่างเดียว มีบางส่วนหลังฤดูการเก็บเกี่ยวก็ปลูกพืชฤดูแล้ง ส่วนใหญ่อยู่ที่หมู่ที่ 6, 9   การทำนายังต้องอาศัยน้ำฝนอย่างเดียว เป็นการปลูกเพื่อบริโภคในครัวเรือนเมื่อเหลือก็จำหน่าย

- พืชไร่ จะปลูกมากที่บริเวณหลังเขาทางทิศเหนือของตำบล พืชที่ปลูกได้แก่มันสำปะหลัง ฝ้าย ข้าวไร่ ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกษตรกรบุกรุกตัดไม้ทำลายป่ามากขึ้น

- ปลูกไม้ผลไม้ยืนต้น   ส่วนใหญ่จะปลูกมะม่วงแก้ว ปลูกแบบสวนหลังบ้านปลูกตามหัวไร่ปลายนาปลูกไว้เพื่อบริโภคและจำหน่ายตามฤดูกาล เช่น มะม่วงแก้ว มีการปลูกไม้กระถินเทพาและยางพาราบางส่วน

          -   พืชผัก ปลูกเพื่อการบริโภคในครัวเรือนและมีการปลูกพืชฤดูแล้งเพื่อการจำหน่าย เช่น แตงกวา ข้าวโพดหวาน พริก และพืชผักต่าง ๆ

-   การเลี้ยงโค กระบือ มีการเลี้ยงแบบปล่อยตามธรรมชาติในฤดูแล้ง หรือต้อนไปเลี้ยงที่บริเวณเทือกเขาหรือบนภูเขา การปลูกหญ้าเลี้ยงสัตว์ยังมีน้อย เนื่องจากขาดแคลนเมล็ดพันธุ์ขาดแหล่งน้ำในการเพาะปลูก ปัจจุบันจะมีการเลี้ยงโคพันธุ์พื้นเมืองมากกว่ากระบือ โคลูกผสมมีการเลี้ยงแต่ถือว่าน้อยกว่า

- การเลี้ยงสุกร สุกรพันธุ์ เช่น แลนเรซ ลาร์ทไวท์ แต่การเลี้ยงยังไม่แพร่หลายจะกระจายอยู่เฉพาะเกษตรกรที่มีฐานะดีเท่านั้น

- การเลี้ยงสัตว์ปีก มีการเลี้ยงแบบปล่อยเลี้ยงตามธรรมชาติ ขาดการดูแลเอาใจใส่เท่าใดนัก เลี้ยงในบริเวณบ้าน หัวไร่ปลายนา เกษตรกรยังขาดความรู้ในการป้องกันกำจัดโรคและมีการเลี้ยงเพื่อการบริโภคและจำหน่ายบางส่วน

ประวัติความเป็นมาบ้านโพนงาม

       บ้านโพนงาม มีบุคคลกลุ่มหนึ่งได้อพยพเคลื่อนย้ายมาจากเมืองวังอ่างคำ ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เมื่อ ปี พ.ศ. 2340 ก่อนเป็นหมู่ที่ 4 ขึ้นต่อตำบลบ้านค้อ เมื่อ ปี พ.ศ. 2512 ได้ขอแยกตัวมาเป็นตำบลโพนงาม หมู่1,2

รายละเอียดตัวบุคคลที่มีการเคลื่อนย้าย

      1. พ่อเฒ่าคำจันทร์ วงศ์ตาหล้าพร้อมครอบครัว

      2. นายท้าว พร้อมครอบครัว

      3. นางใหญ่ พร้อมครอบครัว

      ได้อพยพข้ามแม่น้ำโขงมาตั้งบ้านอยู่ชื่อบ้านโพนทา คือบ้านหนองสระพังทองปัจจุบัน อยู่มานานประชากรเพิ่มขึ้นมาก ที่ดินที่ตั้งหมู่บ้านเดิมคับแคบ ประชากรกลุ่มหนึ่งเลยแยกตัวออกไปตั้งบ้านใหม่ ซึ่งไม่ไกลจากที่เดิมมากนักและตั้งชื่อใหม่บ้านว่า “บ้านนางาม” เพื่อความคล้องจอง บ้านโพนทา-บ้านนางาม จึงตัดออกสองพยางค์ คือทากับนาและนำมาสนธิเข้ากันเป็น “บ้านโพนงาม” ในปัจจุบัน

บ้านโพนงามเป็นที่ตั้งของตำบลโพนงาม สังกัด องค์การบริหารส่วนตำบลโพนงาม บริหารงานโดยกำนัน ประมวล สุขรี่ ปกครองประจำหมู่ที่ 2 ด้วยและนายนลิน ศรีเฉลียว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1

         

ที่ตั้ง / อาณาเขต

ทิศเหนือ                    จดเขตตำบลหนองแคน อำเภอดงหลวง

ทิศใต้                                 จดเขตตำบลบ้านค้อ อำเภอคำชะอี

ทิศตะวันออก              จดเขตบ้านหนองสระพังทอง

ทิศตะวันตก                จดเขตบ้านตูมหวาน

ประวัติความเป็นมาบ้านหนองสระพังทอง

         

        เมื่อประมาณเกือบ 300 ปี ผ่านมา ได้มีราษฎรอพยพมาจากเมืองคำเกิด คำม่วน ประเทศลาวมาตั้งหลักแหล่งทำมาหากินใกล้บริเวณหนองน้ำธรรมชาติ ซึ่งมีความอุดมสมบรูณ์ (อยู่บริเวณทิศใต้ของหมู่บ้านในปัจจุบัน) ระยะเริ่มก่อตั้งหมู่บ้านมีประชากร ราว 10 ครอบครัว เรียกชื่อหมู่บ้านว่า “บ้านโพนทา” ต่อมาราษฎรในหมู่บ้านได้ทำการบุกเบิกแผ้วถางจนเป็นไร่นาที่ทำกิน และขยายครอบครัวมากขึ้นเรื่อยๆมีครั้งหนึ่งชาวบ้านพากันไปหาปลา(ไปฟันปลา) ปรากฏว่าเกิดเหตุพลาดฟันถูกเข่าเพื่อนบ้านที่ไปด้วยกัน จึงพากันเรียกชื่อหนองน้ำธรรมชาตินั้นว่า “หนองหัวเข่า” หนองหัวเข่าจึงเป็นเรื่องที่เล่าติดปากกันมาเรื่อยและผู้ปกครองหมู่บ้านจึงเปลี่ยนชื่อหมู่บ้านว่า “บ้านหนองหัวเข่า” มาตลอดจากนั้นหมู่บ้านนี้ได้พัฒนามาโดยลำดับผู้ใหญ่บ้านคนแรก คือ พ่อใหญ่อินทวงศ์ ได้พาชาวบ้านพัฒนาจนปรากฎว่ามีประชากรเพิ่มจำนวนขึ้นหลายครอบครัว จึงมีการขยายอาณาเขตของหมู่บ้านไปทางทิศเหนือ ซึ่งมีหนองน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่หนองน้ำแห่งนี้เป็นที่ทำมาหากินในเวลาต่อมา และยังเป็นที่หลบฟังข่าวคราวของข้าศึกในสมัยศึกฮ้อศึกกระทอ ของเมืองเปงจานที่อยู่ทางทิศตะวันออกของหนองน้ำประมาณ 2 กิโลเมตร (ปัจจุบันพบเศษอิฐเศษไหโบราณ และกระดูกชาวเมืองเปงจาน) ประกอบกับนายร้อยวัว นายร้อยควาย นำวัว ควาย ผ่านมาพักอาศัยค้างคืนเป็นเหตุให้หนองน้ำพังตื้นเขิน ชาวบ้าน จึงเรียกชื่อหนองนี้ว่า “หนองสะพัง” หรือหนองพัง

       ต่อมาหนองหัวเข่าได้ถูกชาวบ้านพัฒนาเป็นที่ทำกินไม่เหลือสภาพของหนองน้ำอย่างเดิมชาวบ้านจึงพากันไปหาที่ทำกินที่หนองพังแทน ชื่อของหนองพังจึงคุ้นหูชาวบ้านตอดจนบ้านใกล้เคียงก็รู้จักหนองพังกันดี ในที่สุดผู้ปกครองหมู่บ้านและชาวบ้านจึงเรียกชื่อหมู่บ้านใหม่ว่า “บ้านหนองสะพัง” ตั้งแต่นั้นมา

       เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2517 อาจารย์ โก่ง แก้วศรีนวม ในสมัยนั้นดำรงตำแหน่งครูใหญ่โรงเรียนบ้านหนองสระพังทอง มีแนวคิดที่จะเพิ่มชื่อหมู่บ้านใหม่ว่า “บ้านหนองสระพังทอง” โดยมีคำว่า “ทอง” มาต่อท้ายเพราะเหตุว่าบริเวณหนองพังเป็นที่อยู่ของขอมปลักมาก่อน เมื่อเกิดศึกฮ้อ ศึกกระทอ พวกขอมปลักได้ฝังสมบัติจำพวกที่หล่อด้วยสัมฤทธิ์ไว้หลายชิ้น (ชาวบ้านขุดพบ ประมาณ 5-6 ชิ้น) เมื่ออาจารย์ โก่ง แก้วศรีนวม นำไปปรึกษาชาวบ้านต่างก็เห็นด้วย จึงเปลี่ยนชื่อโรงเรียนก่อนเป็นโรงเรียนบ้านหนองสระพังทอง และบ้านหนองสระพังทอง มาจนถึงปัจจุบัน

       ในปี พ.ศ. 2520 บ้านหนองสระพังทองได้ขยายการปกครองเป็น 2 หมู่ คือ หมู่ 6,9 โดยมี นาย เลือน รูปคม กับ นาย อิ่ง รูปคม เป็นผู้ใหญ่บ้านในขณะนั้น

         

ประวัติหมูบ้านบ้านแฝก

       สมัย 200 กว่าปีจนถึงปัจจุบัน ผู้ที่มาตั้งบ้านคนแรกมี 2 พวก พวกที่ 1 มาจากเมืองร้อยเอ็ด มีชื่อว่านายดี ปัญญาบุตร พวกที่ 2 มาจากเมืองวังอ่างคำ ประเทศลาว ก่อนที่จะอยู่ในถิ่นนี้เห็นว่าที่บริเวณถิ่นนี้เป็นหนองน้ำมีหญ้าแฝกล้อมรอบอุดมสมบูรณ์ ตอนนั้นยังเป็นห่าเป็นดงเต็มไปหมด พวกนายดี ปัญญาบุตรจึงได้อพยพครอบครัวมาตั้งหลักฐาน หลังจากนั้นมีนายชา คล่องดี มาตั้งกระท่อมขึ้นเป็นพวกที่สอง จึงได้ชื่อว่าบ้านแฝกต่อมาได้เพิ่มครอบครัวขึ้นหลายหลังคาเรือนทุกปี ทางเจ้าหน้าที่บ้านเมืองเห็นสมควรจึงได้ตั้ง

ผู้ปกครองหมู่บ้านขึ้นมา คนแรกคือ ผู้ใหญ่เพีย ปัญญาบุตร ประมาณ 200 ปีในสมัยนั้น คนที่ 2 คือผู้ใหญ่นาค ปัญญาบุตร คนที่ 3 คือ นายทอง ปัญญาบุตร คนที่ 4 คือนายทอง ศรีวิลัย คนที่ 5 คือนายกว้าง ปัญญาบุตร คนที่ 6 คือนายวาน เสนาพันธ์ คนที่7 คือนายเกียน รูปคม คนที่8 คือนายบุดดี เมืองโคตรคนที่9 คือนายราตรี คล่องดี

       ในปี พ.ศ. 2535 บ้านแฝกได้แยกออกเป็นหมู่บ้าน คือเดิมหมู่ที่7 แยกออกเป็น หมู่ที่ 10 ผู้ใหญ่คนปัจจุบัน คือ นายสันติ สุพร ได้รับเลือกเป็นผู้ใหญ่จนถึงปัจจุบัน หมู่ที่ 7 คนปัจจุบันนี้ คือ ด.ต. จิตติ ดรหมั่น

อาณาเขตติดต่อ

     ทิศเหนือ         จด   บ้านภูห้วยแคน

     ทิศใต้             จด   บ้านแข้

     ทิศตะวันออก   จด   บ้านหนองไผ่บ้านนาคำ

     ทิศตะวันตก     จด   บ้านหนองสระพังทอง

การคมนาคม

       ใช้ถนนเส้นทาง รพช. ลาดยางเป็นระยะ สลับกับถนนลูกรัง จดกับทางหลวงแผ่นดินสายกาฬสินธุ์ที่บ้านหนองเอี่ยนทุ่งสถานที่ สำคัญทางศาสนาวัดประจำหมู่บ้าน “วัดศรีจอมมณี”ประเพณีสำคัญชาวบ้าแฝกยึดถือประเพณีวัฒนธรรมเหมือนชาวไทยอีสานทั่วๆไป

ประวัติความเป็นมาบ้านตูมหวาน

ประมาณปี 2,380 ได้เกิดสงคราม (ศึกฮ้อศึกกระทอ) ขึ้นที่ประเทศลาว พ่อท้าว นาชาดา พ่อเฒ่าไชยสาน นางใหญ่ ท้าววงศ์คำจันทร์ นางน้อย จึงได้พาครบครัวและบริวารอพยพหนีภัยสงคราม จากเมืองวัง ประเทศลาวข้ามแม่น้ำโขงมาตั้งถิ่นฐานที่ประเทศไทยบริเวณบ้านโพนทา (บ้านหนองสระพัง) และและบ้านนางาม (บ้านโพนงาม) จากนั้นได้มีญาติพี่น้องจากฝั่งประเทศลาวอพยพตามเข้ามาอีกเป็นจำนวนมาก จึงมีความต้องการที่จะแสวงหาที่อยู่อาศัยใหม่ จากการออกล่าสัตว์ หากลอย หาหวายมาใช้เป็นอาหารจึงได้มาพบพื้นที่แห่งหนึ่งอยู่ทางทิศตะวันตก ของบ้านนางาม เห็นว่าเป็นพื้นที่ที่เหมาะแก่การเพาะปลูก เนื่องจากดินมีความอุดมสมบรูณ์มีแอ่งแห่งนี้ ซึ่งคนสมัยนั้นเรียกว่า กุด ที่ราบ เหมาะแก่การทำไร่ทำนา ดังนั้นเวลาล่วงมาประมาณปี 2382 พ่อเฒ่าอุปรี พ่อเฒ่าพา ตาจ่า ตาหมี (ไม่ทารบนามสกุล) ได้นำครอบครัวและลูกหลานประมาณสิบครอบครัว มาตั้งบ้านขึ้นใหม่ บนเนินดินกุด เรียกว่าบ้านนาโนน (ปัจจุบันอยู่ทางทิศเหนือของบ้านตูมหวาน ห่างประมาณ 1 กิโลเมตร) พื้นที่โดยทั่วไปเป็นป่ารกทึบและยังมีต้นมะตูมขึ้นประปนเป็นจำนวนมาก เป็นมะตูมที่มีรสหวานเป็นพิเศษ การเข้ามาอยู่ ครั้งแรกผู้เฒ่าของหมู่บ้านได้ทำพิธีเส้นสรวง “ผีเจ้าที่” เพื่อบอกกล่าวเสี่ยงทาย (จากคำบอกเล่าของหลวงตาสอน วัดโพธิ์ทอง) เล่าว่า ผู้เฒ่าในหมู่บ้านได้ทำพิธีโดยการปักไม้อันหนึ่งลงการพื้นดินแล้วเอาข้าวสารกองไว้รอบๆ ไม้เอาไว้ จากนั้นเย็บใบไม้เป็นกรวยคอบไว้ตลอดคืนบอกกล่าว “ผีเจ้าที่” ว่าขอมาพึ่งพาอาศัย ทำมาหากินอยู่ที่นี่ เจ้าที่จะอนุญาตหรือไม่

พอรุ่งเช้าวันใหม่ จึงไปเปิดกระทงดูปรากฏว่าข้าวที่กองไว้รอบๆไม้ถูกเขี่ยกระจัดกระจายผู้เฒ่าจึงสันนิฐานผีเจ้าที่ไม่อนุญาตให้อยู่ หากขืนอยู่ต่อไปก็จะเกิดเจ็บไข้ได้ป่วยและล้มตายตามความเชื่อเรื่องผีเข็ด

ดังนั้นจึงย้ายหมู่บ้านอยู่ทิศใต้ของกุด (แอ่งน้ำ) คือที่ตั้งหมู่บ้านในปัจจุบันเปลี่ยนชื่อหมู่บ้าน “ตูมหวาน” พอมีคนตามมาอยู่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงได้ร่วมกันถางที่สร้างวัดขึ้นแห่งหนึ่งทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของหมู่บ้าน (ปัจจุบันพื้นที่แห่งนี้ถูกบุกรุกเป็นที่นาหมดแล้ว) บ้านกุดตูมหวาน ได้แบ่งเขตการปกครองออกเป็นคุ้ม มีคุ้มกุดตูมหวาน คุ้มหนองอิด่อน คุ้มดอนปาติ้ว คุ้มโนนป่าแดง คุ้มนาเหงี่ยงโง้ง และคุ้มโนนกกบก ต่อมาทางราชการได้ประกาศจัดตั้งหมู่บ้านเพื่อแบ่งเขตการปกครอง บ้านกุดตูมหวานจึงเปลี่ยนชื่อเป็น “บ้านตูมหวาน” คัดคำว่ากุด ออก เนื่องจากกุดดังกล่าว ภายหลังถูกบุกรุกจับจองกลายเป็นที่นาหมดแล้ว เดิมบ้านกุดตูมหวานขึ้นกับตำบลบ้านค้อ ต่อมาจึงได้ขึ้นกับตำบลโพนงาม จนถึงปัจจุบันจากการสืบค้น พอเชื่อได้ว่าเหตุที่ตั้งชื่อหมู่บ้านว่าบ้านตูมหวานนั้น ตั้งชื่อตามต้นมะตูมหวานที่ขึ้นอยู่ทั่วไปรอบๆกุด (ปัจจุบันเป็นต้นมะตูมหวานสูญพันธุ์หมดแล้ว)

ประวัติความเป็นมาบ้านดอนป่าแคน

ความเป็นมาของหมู่บ้านดอนป่าแคน เดิมแยกมาจากหมู่บ้านตูมหวาน เมื่อ พ.ศ. 2457เป็นเวลา 85 ปีมาแล้ว เมื่อก่อนพื้นที่แถบนี้เป็นไม้แคน (ตะเคียน) และไม้นานาชนิด อุดมสมบรูณ์ไปด้วยป่าไม้และสัตว์ป่ามากมายสภาพพื้นที่เป็นที่ดอน จึงได้ขนานนามว่าบ้านดอนป่าแคน ผู้ก่อตั้งหมู่บ้านคนแรก คือ นาย สิม คนตรง และต่อมาเมื่อทางราชการได้ประกาศเป็นหมู่บ้าน นาย สิม คนตรง ก็ได้รับเลือกตั้งให้เป็นผู้ใหญ่บ้าน นับว่าเป็นผู้ใหญ่บ้านคนแรกของหมู่บ้านแห่งนี้ และต่อมาได้มีการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านขึ้นมาอีก 4 คนคือ

             1. นาย สิม คนตรง

             2. นาย ใคร ปัทวงศ์

             3. นาย ทา สีดา

             4. นาย ชวน คนตรง

อาณาเขต

       ที่ตั้งของหมู่บ้านอยู่ใกล้เทือกเขาภูพานอยู่ห่างจากภูเขาประมาณ 500 เมตร

       ทิศเหนือ         จด เทือกเขาภูพาน

       ทิศใต้             จด บ้านตูมหวาน

       ทิศตะวันออก   จด   บ้านโพนงาม

       ทิศตะวันตก     จด   เทือกเขาภูพาน

การคมนาคม

       สะดวกสบาย มีถนน รพช. เชื่อมเข้ามายังหมู่บ้านเป็นถนนลาดยางและลูกรังเป็นบางตอน อยู่ห่างจากอำเภอคำชะอี 13 กิโลเมตร อยู่ห่างจากจังหวัดมุกดาหาร 47 กิโลเมตร

การแบ่งเขตการปกครอง

แบ่งการปกครองออกเป็น ๑๐ หมู่บ้าน มีประชากรทั้งสิ้น ๕,๒๙๙ คน ดังนี้

                  กำนันตำบลโพนงาม นายประมวล สุขรี่

หมู่

ชื่อบ้าน

ประชากร

ชื่อผู้ใหญ่บ้าน

ชาย

หญิง

หมู่ที่ ๑

บ้านโพนงาม

/

นายนลิน ศรีเฉลียว

หมู่ที่ ๒

บ้านโพนงาม

/

นายประมวล สุขรี่

หมู่ที่ ๓

บ้านตูมหวาน

/

นายธนากร สีดา

หมู่ที่ ๔

บ้านดอนป่าแคน

/

นายเสนอ ศรีสร้อย

หมู่ที่ ๕

บ้านโนนป่าแดง

/

นางนุ่น สุขรี่

หมู่ที่ ๖

บ้านหนองสระพัง

/

นายวิรุศ รูปใส

หมู่ที่ ๗

บ้านแฝก

/

นายสมรัก โสดา

หมู่ที่ ๘

บ้านนาดอกไม้

/

นายหวัน คนคล่อง

หมู่ที่ ๙

บ้านหนองสระพัง

/

นายชอบธรรม รูปธรรม

หมู่ที่ ๑๐

บ้านแฝก

/

นายสันติ สุพร

 ศาสนสถาน

ที่

ประเภท

ชื่อศาสนสถาน

ชื่อเจ้าอาวาส / สำนักสงฆ์

วัด

สำนักสงฆ์

.

/

วัดวัมมิกาวาส บ้านโพนงาม หมู่ ๒

-ว่าง

.

/

วัดศรีโพธิ์ทอง บ้านตูมหวาน หมู่ ๓

พระอธิการเดื่อ

.

/

วัดสามัคคีธรรม บ้านดอนป่าแคน

หมู่ ๔

พระอธิการจรัส อัคฺคปัญฺโญ

.

/

วัดศรีจอมมณี บ้านแฝก หมู่ ๗

พระอธิการชู ยติโก

.

/

สังฆสถานป่าช้าโพนงาม บ้านโพนงาม หมู่ ๑

พระมหาบุญนาค

.

/

วัดศรีสว่างอารมณ์ บ้านหนองสระพังทอง หมู่ ๙

พระอธิการมงคล นิพฺภโย

 อาณาเขต

                 Ä ทิศเหนือ               จดเขตตำบลหนองแคน อำเภอดงหลวง

                 Ä   ทิศตะวันออก         จดเขตตำบลผึ่งแดดและตำบลดงมอน อำเภอเมืองมุกดาหาร

                 Ä   ทิศใต้                  จดเขตตำบลบ้านค้อ อำเภอคำชะอี

                 Ä   ทิศตะวันตก          จดเขตตำบลบ้านค้อ และเขตอำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์

ลักษณะภูมิประเทศ

    มีพื้นที่ทั้งหมด   ๓๕,๙๓๓ ไร่ หรือ ๕๗.๔๙๒๘ ตารางกิโลเมตร

                 - พื้นที่   ทำการเกษตร         ๓,๑๐๘๔ ไร่ ร้อยละ ๘๖.๕๑

                           

การปกครองส่วนท้องถิ่น

   เป็นองค์การบริหารส่วนตำบล / เทศบาลตำบล

                 นายธนพล พลหาญ ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล

                       นายกองค์การบริหารส่วนตำบล    นายทองฝ่าย สุขรี่

                 รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ชื่อ นายทองพันธ์ สุขรี่

                 รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ชื่อ นางเทือน รูปคม

                 เลขานุการองค์การบริหารส่วนตำบล ชื่อ ร้อยตรีสมบูรณ์ อาคะพงษ์

                 ประธานสภา ชื่อ............................ว่าง..........................      

สภาพทางเศรษฐกิจ

 

    ๑. อาชีพทางการเกษตร ตำบลโพนงาม มีพื้นที่เกษตรทั้งสิ้น ๓๑,๐๘๔ ไร่   ครอบครัวการเกษตร ๑,๒๘๕ ครอบครัว สภาพการผลิตพืชเศรษฐกิจ ที่สำคัญ ๆ จำแนกได้ ดังนี้

พืชเศรษฐกิจ

พื้นที่เพาะปลูก
(ไร่)

ผลผลิตเฉลี่ย
(ก.ก./ไร่/ปี)

จำนวนครัวเรือน

ข้าว

มันสำปะหลัง

อ้อย

อื่น ๆ……

๙,๗๗๓

๓,๘๔๑

๓๔๘

๑,๓๙๙

900

๓,๐๐๐

-

-

๑,๒๘๕

๓๘๒

-

-

กลุ่มอาชีพ หรือสถานประกอบการ

ที่

ชื่อกลุ่ม

สมาชิก

(คน)

ที่ตั้ง

ชื่อประธานกลุ่ม

.

อาชีพการเย็บเสื้อด้วยมือ

๒๐

๑๒๒ หมู่ ๑ ตำบลโพนงาม

นางสุทิน คนหาญ

.

โรงงาน....

-

.

อาชีพ......

-

แหล่งท่องเที่ยว

ที่

ชื่อ

ที่ตั้ง

.

แหล่งท่องเที่ยวภูธง

บ้านตูมหวาน หมู่ ๓ ต.โพนงาม อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร

ประวัติภูธง

            ภูธงเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาภูพาน มียอดสูงกว่ายอดอื่นๆ ในบริเวณใกล้กัน เช่น ภูตูม ภูหวาย ภูโหล่น ภูผักหวาน มีอาณาเขตล้อมรอบ ดังนี้ทิศเหนือติดกับแนวภูโหล่น ภูศาลา ไปจนถึงภูไก่เขี่ยในเขตอำเภอดงหลวง ทิศใต้ติดกับเชิงเขาแม่นางม่อนหรือภูผาซาน ทิศตะวันออกเป็นที่ราบเชิงเขาและทุ่งนาสามารถมองเห็นทิวเขาที่ฝั่งประเทศลาว(สะหวันเขต) ทิศตะวันตกติดกับภูวัดภูหวานตลอดแนว มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 400 เมตร ห่างจากหมู่บ้าน 4 กิโลเมตรภูธงตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของบ้านนาดอกไม้ หมู่8 ต.โพนงาม อ.คำชะอี  จ.มุกดาหาร ทางขึ้นภูธงเริ่มจากสถานีอนามัยโนนป่าแดง ภูธงมีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่า ในสมัยหลังจากเกี่ยวข้าวเสร็จแล้ว พระภิกษุสามเณรและชาวบ้านจะพากันขึ้นไปบนภูเพื่อเกี่ยวหญ้าคานำมุงกุฏิศาลาในวัด ต้องนอนพักแรมอยู่ที่ลานหญ้าบนภูหลายคืน เมื่อเกี่ยวหญ้าพอแล้วก่อนจะลงจากภูจะเอาผ้าอาบน้ำผูกกับต้นไม้ทำเป็นธงนำขึ้นไปมัดไว้บนต้นไม้บนยอดภู เพื่อแจ้งให้ชาวบ้านรู้ว่าการเกี่ยวหญ้าเสร็จสิ้นแล้ว ให้ชาวบ้านไปช่วยแบกหาบลงมาเพื่อมุงหลังคาวัดต่อไป ผ้าที่ผูกไว้จะโบกสะบัดอยู่บนภูมองเห็นได้จากที่โล่ง ทำให้ทุกปีชาวบ้านจะรอดูว่าเมื่อใดที่มีธงผ้าปรากฏบนยอดภูเขาเป็นที่รู้กันว่าจะต้องไปช่วยกันหาบหญ้าคาลงมาจากภูเป็นการทำบุญอีกอย่างหนึ่งของชาวบ้านในท้องถิ่นนั้น ต่อมาคนในหมู่บ้านแถบนั้นจึงเรียกยอดภูลูกนั้นว่า”ภูธง” มาจนถึงทุกวันนี้ ภูธงเป็นภูเขาที่สูงชัน ล้อมรอบด้วยป่าไม้นานาพันธุ์ ทางขึ้นเป็นชั้นๆ ทางขึ้นเป็นชัน มีกอไผ่รอก ไผ่ไล่ ไผ่บง ขึ้นเป็นหย่อม ส่วนใหญ่จะเป็นป่าไม้เบญจพรรณ เช่น ประดู่แดงเต็งรัง สองข้างทางจะมีโขดหินและหน้าผาตลอดทาง บรรยากาศร่มรื่น เงียบสงบเย็นสบายน่าพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง

จุดเด่นของภูธง

1. เป็นแหล่งท่องเที่ยว

บนยอดเขาของภูธง มีจุดชมวิวที่ดูได้ทั้งแปดทิศถ้ายืนอยู่บนหน้าผามองไปทางทิศตะวันออกจะเห็นทุ่งนาสลับกับหมู่บ้านสามารถมองเห็นภูมิประเทศของจังหวัดมุกดาหารและแนวภูเขาลิบๆที่มีเหลี่ยมเขาที่สลับซับซ้อนน่าประทับใจ มองไปทางทิศตะวันตกจะเป็นแนวเขาและป่าไม้เขียวสดเหมือนทะเลป่าไม้น่าตื่นตาตื่นใจ ถ้ามองไปทางทิศใต้จะเห็นหลังคาครอบครัวชาวบ้านในชนบทเป็นหย่อมๆทอดยาวไปจนถึงอำเภอคำชะอี ถ้าเป็นฤดูฝนที่ทัศนวิสัยดีไม่มีหมอกควันจะสามารถมองเห็นยอดเจดีย์ผาน้ำย้อยจังหวัดร้อยเอ็ดได้ลิบๆ ป่าไม้ที่เขียวสดโขดหินที่เรียงราย เหลี่ยมเขาที่ยาวไกลเป็นทิวทัศน์ที่สวยงามมาก ภูมิทัศน์โดยรอบเต็มไปด้วยศิลปะจากธรรมชาติ เหมาะกับมุมกล้องเพื่อเป็นฉากถ่ายภาพได้ทุกทิศทาง

2. เป็นที่แสวงบุญ

        ปัจจุบันยอดภูธง กำลังก่อสร้างศาสนสถานที่วิจิตรสวยงาม เป็นมณฑลขนาดกว้าง 26 เมตร ยาว 26 เมตร สูง 31เมตรเป็นสถาปัตยกรรมแบบอีสานร่วมสมัยใช้งบประมาณในการก่อสร้างประมาณ 10 ล้านบาท โดยได้รับงบประมาณจากผู้มีจิตศรัทธาของคณะกฐินและผ้าป่าจากกรุงเทพฯ ที่นำมาทอดถวายทุกปี และได้รับแรงงานจากพุทธศาสนิกชนจากชาวบ้านในหมู่บ้านใกล้เคียงด้วยความศรัทธาในมณฑลชั้นล่างบรรจุรอยพระพุทธบาท 4 รอยที่แกะสลักจากหินแกรนิตนับมูลค่ามหาศาล ชั้นบนบรรจุสารีริกธาตุ(กระดูกพระอรหันต์) ที่นำมาจากประเทศศรีลังกา ควรแก่การกราบไหว้เคารพบูชาอย่างยิ่ง ทางขึ้นองค์มณฑลมีพระสังทัจจายให้กราบไหว้ขอพร ซึ่งเชื่อว่าผู้ที่ได้กราบไหว้บูชาแล้วจะมีโชคลาภตลอดไปรอบนอกองค์มณฑล เป็นลานคอนกรีตโดยรอบทั้งสี่ด้านมีบันไดนาคขึ้นลงทั้งสี่ทิศใช้เป็นที่นั่งวิปัสสนากรรมมัฎฐานและประกอบพิธีทางศาสนาซึ่งในทุกปีจะมีพุทธศาสนิกชน บวชชี พราหมณ์ร่วมสวดมนต์ไหว้พระตลอดคืนอยู่เสมอ

ประวัติการสร้างพระพุทธบาทภูธง

    1. เพื่อเป็นการอโลงพระพุทธบาท ให้เจริญรุ่งเรืองสืบไป

    2. เพื่อเป็นแหล่องแสวงบุญขิงชาวพุทธทั่วไป

    3. เพื่อเป็นสถานมี่ปฏิบัติธรรม ของพุทธศาสนิกชน

    4. เพื่อเป็นแหล่องท่องเที่ยวทางธรรมชาติของบุคลทั่วไป

    5. เพื่อเป็นศูนย์กลางอนุรักษ์ป่าไม้และสัตว์ป่าอื่นๆ

    ในบริเวณป่าชุมชนภูธง มีที่อยู่ของพ่อลูกคู่หนึ่งดำรงชีวิตอย่างสมถะ ไม่สนใจโลกภายนอก อาศัยอยู่ในรู จึงเรียกว่าคนรู มีชีวิตความเป็นอยู่อย่างพอเพียง ได้สร้างกำแพงสูงและยาวหลายร้อยเมตรล้อมลอบที่อยู่ โดยไม่มีการใช้เครื่องจักรและไม่มีการจ้างแรงงาน เห็นแล้วเกิดความทึ่งในความพากเพียรพยายามของมนุษย์เป็นผลงานที่เกิดจากยาดเหงื่อและสองมือโดยแท้

        ลานคอย หรือ ลานสาวคอย ทางขึ้นภูธง มีลานหินแห่งหนึ่งในอดีตเป็นสถานที่สาวนัดหนุ่มมาพบกัน หรือบางตำนานกล่าวว่าหญิงใดไม่มีคู่ ถ้ามานั่งในลานนี้จะได้แต่งงานในปีนั้น

       หินตั้ง เป็นศิลปะของธรรมชาติ ที่ผุดโผล่ขึ้นมามองดูเป็นที่น่าอัศจรรย์เป็นฉากถ่ายภาพ ที่นักท่องเที่ยวนิยมกันมา

การศึกษา  

จำนวนสถานศึกษา

ที่

ชื่อ

จำนวน นร./นศ.

จำนวนครู

ชื่อผู้บริหารสถานศึกษา

.

กศน.อำเภอคำชะอี โดย กศน.ตำบลโพนงาม เป็นหน่วยปฏิบัติ

๒๖๔

๔ คน

นายเพียร แสวงบุญ

.

โรงเรียนบ้านตูมหวาน

๑๕๘

๑๘ คน

นายเอกราช พรหมพิบูลย์

.

โรงเรียนบ้านโพนงาม

๑๓๒

๙ คน

นายปานไทย ภูล้นแก้ว

.

โรงเรียนบ้านแฝก

๖๑

ดร.อนัตตา ชาวนา

.

โรงเรียนบ้านหนองสระพัง

๖๒

นายสมศักดิ์ อุปัญญ์

.

ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลโพนงาม

๑๑๐

นางสุดใจ พลคีรี

(หัวหน้าศูนย์)

 การศาสนา

         ๑. ประชากรนับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ ๑๐๐

๒. ข้อมูลทั่วไปของ กศน.ตำบลโพนงาม

         2.1 ประวัติความเป็นมา

          การปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง (พ.ศ. 2542-2561) ได้ให้ความสำคัญเรื่องการศึกษาและการเรียนรู้ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพ และมาตรฐานการศึกษาและการเรียนรู้ของคนไทย เพิ่มโอกาสทางการศึกษาและการเรียนรู้อย่างทั่วถึงและมีคุณภาพและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนของสังคมในการบริหารจัดการเพื่อให้คนไทยได้เรียนรู้ตลอดชีวิต ทั้งการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยอย่างมีคุณภาพ ให้บรรลุวิสัยทัศน์ที่กำหนดไว้ “คนไทยได้เรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ”กระทรวงศึกษาธิการ จึงได้มีโยบายให้มีการจัดตั้ง กศน.ตำบล ขึ้นเพื่อให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ระดับตำบล เป็นแหล่งเรียนรู้ สำหรับประชาชนเพื่อประชาชนได้ใช้ในการแสวงหาความรู้เพื่อให้เกิดสังคมแห่งการเรียนรู้

          กศน.ตำบลโพนงามได้รับการประกาศจัดตั้งให้เป็น กศน.ตำบล เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2552 โดยได้รับการสนับสนุน จากองค์การบริหารส่วนตำบลโพนงาม ให้ใช้อาคารศูนย์พัฒนาเด็กเล็กหลังเก่าเป็นที่ทำการและมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2553 โดยมี นายสุจิล มาตราช ตำแหน่งครูศูนย์การเรียนชุมชน และนางสาวรัตนพร เพ็งศรีโคตร ตำแหน่งครูศูนย์การเรียนชุมชน เป็นครูประจำ กศน.ตำบลโพนงามในขณะนั้นเมื่อปี พ.ศ. 2553 สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ได้มีคำสั่งแต่งตั้ง ให้นายสุจิล มาตราช ตำแหน่ง ครู กศน.ตำบล ไปประจำ กศน.ตำบลโพนงามและปัจจุบัน นางนิภาภรณ์ ดิสิงห์ หัวหน้า กศน.ตำบลโพนงาม

 ทำเนียบ หัวหน้าครู กศน.ตำบลโพนงาม

      1.นางสาวรัตนพร เพ็งศรีโคตร

      2.นายสุจิล มาตราช

      3.นางนิภาภรณ์ ดิสิงห์ปี 2555 – ปัจจุบัน         

 บุคลากรของ กศน.ตำบลโพนงาม

1.นางนิภาภรณ์ ดิสิงห์ตำแหน่ง หัวหน้า กศน.ตำบล

2.นางสาวรัตนพร เพ็งศรีโคตรตำแหน่ง ครู กศน.ตำบล

3.นางสาวสุพัตรา คนหาญตำแหน่ง ครูศูนย์การเรียนชุมชน

4.นางสาวนันทนา สุขรี่ตำแหน่ง ครูศูนย์การเรียนชุมชน

          กศน.ตำบล หมายถึง หน่วยจัดกิจกรรมการเรียนรู้การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยที่ตั้งอยู่ในระดับตำบล/แขวง

2.3 หลักการ

          หลักการทำงาน กศน.ตำบล ยึดชุมชนเป็นฐานในการทำงานและการเรียนรู้ โดยใช้ต้นทุนของชุมชน เช่น อาคาร สถานที่แหล่งวิทยาการ ภูมิปัญญาท้องถิ่น วัฒนธรรมประเพณี มีการประสานเครือข่ายในชุมชนร่วมจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยส่งเสริม สนับสนุนให้ทุกภาคส่วนในชุมชน/สังคม เข้ามีส่วนร่วมเป็นภาคีเครือข่าย ในการดำเนินการจัดกิจกรรม กศน.ตำบล ทั้งในฐานะผู้ให้บริการ ผู้รับบริการ มีส่วนร่วมเป็นเจ้าของ ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมแก้ปัญหา บูรณาการกระบวนการเรียนรู้ และจัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้สอดคล้องกับวิถีชีวิต ของผู้เรียนและชุมชน มีคณะกรรมการ กศน.ตำบล เป็นคนในชุมชนให้การส่งเสริมสนับสนุน ติดตามดูแลและร่วมประเมินผลการดำเนินงาน กศน.ตำบล

2.4 วัตถุประสงค์

          กศน.ตำบล จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้

     1) เพื่อเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และจัดกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยเพื่อให้ประชาชนได้รับการศึกษาตลอดชีวิตอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ

     2)เพื่อสร้างและขยายภาคีเครือข่ายในการมีส่วนร่วมการจัดกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยในชุมชน

     3)เพื่อส่งเสริม สนับสนุนการจัดกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยของภาคีเครือข่าย

        4)เพื่อประสานและเชื่อมโยงการดำเนินงานจัดการศึกษาร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนและภาคประชาชน

ทำเนียบคณะกรรมการ กศน.ตำบล

ที่

ชื่อ - นามสกุล

หน้าที่

ตำแหน่ง

๑.

นายสัญญา สีดา

ประธานคณะกรรมการ

ประธานกรรมการ

๒.

นายทรงพล มงคล

รองประธานคณะกรรมการ (ชาย)

รองประธานกรรมการ

๓.

นางร่วม   สุขรี่

รองประธานคณะกรรมการ (หญิง)

รองประธานกรรมการ

๔.

นายเตียง   คนหาญ

กรรมการ

กรรมการ

๕.

นายวิรุศ รูปใส

ประชาสัมพันธ์

ประชาสัมพันธ์

๖.

นายพลอย   ศรีโยหะ

เหรัญญิก

เหรัญญิก

๗.

นายสันติ สุพร

ผู้ทรงคุณวุฒิ

ผู้ทรงคุณวุฒิ

๘.

นายธนกร   สีดา

ผู้ทรงคุณวุฒิ

ผู้ทรงคุณวุฒิ

.

นายไชโย   สีดา

กรรมการ

กรรมการ

๑๐.

นายวีระ ปัญญาบุตร

กรรมการ

กรรมการ

๑๑.

นายทวีศักดิ์   ยืนยั่ง

กรรมการ

กรรมการ

๑๒.

นายสมพงษ์   สุขรี่

กรรมการ

กรรมการ

๑๓.

นายคะนอง   สุพร

กรรมการ

กรรมการ

๑๔.

นายเลื่อน คนตรง

กรรมการ

กรรมการ

๑๕.

นายกลาง คนตรง

กรรมการ

กรรมการ

๑๖.

นายคำใบ สีดา

กรรมการ

กรรมการ

๑๗.

นางพิมพ์พา   บุ่งนาแซง

กรรมการ

กรรมการ

๑๘.

นายแดง   รูปคม

กรรมการ

กรรมการ

๑๙.

นายปิยะ   ปัญญาบุตร

กรรมการ

กรรมการ

๒๐.

นายพุทธ   ศรีเฉลียว

กรรมการ

กรรมการ

๒๑.

นายสวัสดิ์   สุวรรณจิตร์

กรรมการ

กรรมการ

๒๒.

นายสมจิตร   วังคำ

กรรมการ

กรรมการ

๒๓.

นางนิภาภรณ์ ดิสิงห์

เลขานุการ

เลขานุการ

๒๔.

นางสาวรัตนพร เพ็งศรีโคตร

รองเลขานุการ

รองเลขานุการ

๒๕.

นางสาวนันทนา สุขรี่

ประชาสัมพันธ์

ประชาสัมพันธ์

26.

นางสาวสุพัตรา คนหาญ

ผู้ช่วยเลขานุการ

ผู้ช่วยเลขานุการ

              ทำเนียบองค์กรนักศึกษา

ที่

ชื่อ - นามสกุล

ตำแหน่ง/หน้าที่

ที่อยู่

๑.

นางฟ้าเดื่อง วังคำ

ประธาน

๓๒ ม.๑ บ.โพนงาม

๒.

นายประสิทธิ์ ทองมหา

รองประธาน (ชาย)

๑๓๑ ม.๓ บ.ค้อ ต.บ้านค้อ

๓.

นางหนูเหลี่ยม วังคำ

รองประธาน (หญิง)

๖๓ ม.๑ บ.โพนงาม

๔.

นางรัฐดาวัน คนคล่อง

เลขานุการ

๙๗ ม.๕ บ.โนนป่าแดง

๕.

นางหวานใจ วังคำ

ผู้ช่วยเลขานุการ

๙๔ ม.๕ บ.โนนป่าแดง

๖.

นางกิ่งแก้ว อุปคุณ

ประชาสัมพันธ์

๖ ม.๑ บ้านโพนงาม

๗.

นางทองเหลี่ยม มณีฉาย

ผู้ช่วยประชาสัมพันธ์

๖๗ ม.๙ บ.หนองสะพัง

๘.

นางวิจิตรา ชนะพจน์    

เหรัญญิก

๘๗ ม.๙ บ.หนองสะพัง

๙.

นางคำผ่อน สุพร

ผู้ช่วยเหรัญญิก

๔๗ ม.๗ บ.แฝก

๑๐.

นางสาวพรชิตา พลเทพ

กรรมการ

๗๒ ม.๒ บ.โพนงาม

๑๑.

นางสุทิน คนหาญ

กรรมการ

๑๒๒ ม.๑ บ้านโพนงาม

๑๒.

นางนิภาภรณ์ ดิสิงห์

คณะกรรมการที่ปรึกษา

๑๖๑ ม.๑ ต.ดงมอน อ.เมือง

ทำเนียบอาสาสมัคร กศน. ประจำตำบล/หมู่บ้าน/ชุมชน

ที่

ชื่อ - นามสกุล

ประจำหมู่บ้าน

ที่อยู่

.

นางวิไล สุวรรณจิตร์

บ้านโพนงาม หมู่ ๑

๗๘ ม. ๑ บ.โพนงาม

.

นายไพรวัล ผิวผ่อง

บ้านโพนงาม หมู่ ๒

๑๗๐ ม. ๒ บ.โพนงาม  

.

นายเกียรติศักดิ์ ตรงดี

บ้านตูมหวาน หมู่ ๓

๙๔ ม.๓ บ.ตูมหวาน

.

นายธีระวุฒิ ไชยนาน

บ้านดอนป่าแคน หมู่ ๔

๓ ม.๔ บ.ดอนป่าแคน

.

นางเลื่อน ใจมั่น

บ้านโนนป่าแดง หมู่ ๕

๓๔ ม.๕ บ.โนนป่าแดง

.

นายพัทยา สุขรี่

บ้านหนองสระพัง หมู่ ๖

๖๘ ม.๖ บ.หนองสระพัง

.

นางรัศมี คนหาญ

บ้านแฝก ๗

๘๒ ม.๗ บ.แฝก

.

นางราตรี สีดา

บ้านนาดอกไม้ หมู่ ๘

๑๓๔ ม.๘ บ้านนาดอกไม้

.

นายวรรณชัย ชนะพจน์

บ้านหนองสระพัง หมู่ ๙

๘๗ ม.๙ บ.หนองสะพัง

๑๐.

นายธวัชชัย สุพร

บ้านแฝก หมู่ ๑๐

๑๕ ม.๑๐ บ.แฝก

รวมทั้งสิ้น...๑๐....หมู่บ้าน                 จำนวน.......๑๐.........คน

              ทำเนียบวิทยากรวิชาชีพ

ที่

ชื่อ - นามสกุล

จบการศึกษาจาก

สอนวิชา

.

นางสุทิน คนหาญ

กศน.อำเภอคำชะอี

เสื้อเย็บมือ

.

นายพาย ปัทวงค์

โรงเรียนบ้านโพนงาม

จักสาน

.

นางบัวเฮียง ตรงดี

โรงเรียนบ้านหนองสระพัง

ไส้กรอก

รวมทั้งสิ้นจำนวน.......๓.........คน

ผู้บริหาร กศน.อำเภอคำชะอี

 

232415 

 นางสาวฐิติพร บุทธิจักร์

ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอคำชะอี

onie

aseanlearn

elibrary nfe

ETV

e exam

hd ebook

krukorsornor

nfe-brief

nfe ubon

 00000828 0 20140804-052510